ต้นทุนบิทคอยน์ – ต่อโลกและเราทุกคน

บิทคอยน์ให้กำเนิดระบบการเงินไร้ศูนย์ (decentralized finance) และแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) ให้โลกประจักษ์ นอกจากนั้นยังทำให้สกุลเงินดิจิตอล (cryptocurrency) และเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อื่นๆ เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย แต่ในแง่สิ่งแวดล้อมแล้ว บิทคอยน์ถือเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกตัวใหญ่ รางวัลนักขุด ต้นทุนพลังงาน ต้นทุนต่อโลก ราคาบิทคอยน์

ชำระล้างคาร์บอนฟุตปรินท์ด้วยต้นไม้ยักษ์

ถ้าคุณไม่เคยได้ยินมาก่อน คุณอาจตกใจที่รู้ว่าคนทั่วโลกปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเฉลี่ย คนละประมาณ 6.5 ตัน CO2e ต่อปี ในนั้น 75% เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อคิดว่าอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80 ปีแล้ว ตลอดชีวิตเราก็น่าจะปล่อยก๊าซกันมากกว่า 500 ตันเลยทีเดียว แน่นอนว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะปลูกต้นไม้ให้ได้เพียงพอหักล้างกับปริมาณก๊าซที่คุณปล่อย…ยกเว้นคุณจะมีโอกาสปลูกต้นไม้ดึกดำบรรพ์ที่มีมาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์อย่าง สนยักษ์ซีคัวญา (giant sequoia) หรือไม่ก็ เรดวูด (coastal redwood) ที่ขึ้นอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอร์ชิงตัน ต้นไม้ยักษ์พวกนี้อยู่ได้เป็นพันๆ ปี

อะไรเปลี่ยนเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอาหารเลี้ยงดูคนเกือบครึ่งโลก

ไม่ว่าคุณจะชิงชังเจ้าพลังงานสกปรกนี้ขนาดไหน แต่เชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังผลิตอาหารเลี้ยงดูคนบนโลกเกือบครึ่ง ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 จนถึงกลางทศวรรษ 1960 ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อและวิตกว่าจะเกิดปัญหาประชากรล้นโลก และผู้คนจะอดอยากล้มตาย (คุณก็อาจเคยเห็นในหนังอยู่บ้าง) ความกลัวที่ว่าอาจไม่ได้เกินเลยอะไร เมื่อคิดว่าในเวลานั้น โลกยังไม่รู้จักสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่ง ผลผลิตการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดหล่อเลี้ยงคน 7 พันล้านกว่าคนให้มีชีวิตบนโลกใบนี้ ผลผลิตต่อไร่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 1900 เช่น ผลผลิตข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโอ๊ต เพิ่มขึ้นเป็น 3-4 เท่า ในอังกฤษ หรือ ผลผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า ในสหรัฐอเมริกา อะไรทำให้เกิดการก้าวกระโดดนี้ จริงๆ ก็หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการคัดพันธุ์พืชที่ให้ผลผลิตสูง การชลประทานที่ดี เทคนิคการเกษตรที่พัฒนาขึ้น และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ปุ๋ยไนโตรเจน

แรร์เอิร์ธ – ไวตามินของสังคมยุคใหม่

เพื่อที่จะก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 เราต้องเร่งสร้าง โซล่าเซลล์ กังหันลม รถไฟฟ้า แบตเตอรี่ ให้ได้หลายเท่าตัวภายใน 20–30 ปีข้างหน้า นั่นหมายความว่า เราจะต้องใช้แร่ธาตุสำคัญหลายอย่าง เป็นจำนวนมหาศาล แร่ธาตุสำคัญที่ว่าก็มีตั้งแต่ ทองแดง อะลูมิเนียม ลิเธียม นิกเกิล โคบอลต์ แมงกานีส กราไฟต์ ไปจนถึง พวกธาตุหายาก ที่เรียกว่า แรร์เอิร์ธ (rare earth) วันนี้เราจะมารู้จักแรร์เอิร์ธกันว่า ทำไมถึงได้รับความสนใจมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

Energy: A Beginner’s Guide

“จะมีใครรู้จักพลังงานดีไปกว่า วาคลาฟ สมิล (Vaclav Smil) ได้อีกไหม” เป็นคำถามนึกหลังจากอ่านหนังสือ Energy: A Beginner’s Guide ไปประมาณ 50 หน้า อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าสาเหตุของโลกร้อนนั้นประมาณ 70% มากจากพลังงาน ผมก็เลยอยากลองศึกษาเรื่องพลังงานซะหน่อย ก็เลยนึกถึงหนังสือของสมิลผู้เป็นกูรูด้านพลังงาน เพราะเห็นบิลเกตส์พูดชมอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นนักเขียนคนโปรด พอไปพลิกๆ หนังสือ Energy and Civilization: A History ที่คิโนะคุนิยะแล้วก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะดูจะมีสาระหนักหน่วง แถมหนาอีก เลยยังไม่กล้าเสี่ยง โชคดีที่เดินไปเห็นหนังสือ Energy: A Beginner’s Guide เล่มเล็กๆ บางๆ แค่ 200 กว่าหน้า เลยลองซื้อมาอ่านดู แล้วก็พบว่า…

ให้เงินช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน

โลกร้อนเป็นปัญหาที่ต้องแก้ทั้งระบบ และสิ่งที่อาจจะมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหามากที่สุด (พอๆ กับที่เป็นตัวสร้างปัญหา) ก็คือ “เงิน” เราแก้ปัญหาโลกร้อนกันเอง (ตรงๆ) ไม่ได้! ทุกคนช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ แต่ถึงแม้จะมุ่งมั่นขนาดไหน ก็ลดได้เพียงบางส่วน เพราะทุกครั้งที่เราขับรถ เราจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2.3 กิโลกรัม ต่อน้ำมัน 1 ลิตร ทุกครั้งที่เราเปิดสวิตช์ไฟ เราจะปล่อยก๊าซ 0.44 กิโลกรัม ต่อไฟฟ้า 1 หน่วย (ไฟฟ้าในประเทศไทยผลิตจากก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก) และทุกครั้งที่เรากินหรือใช้อะไรก็ตาม เราก็ได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมด้วยเหมือนกัน

Begin typing your search term above and press enter to search. Press ESC to cancel.

Back To Top