เป็นหนังสือที่ทำให้เปิดหูเปิดตาเป็นอย่างมาก ออกตัวก่อนเลยว่าผมอ่อนชีวะอย่างหนัก ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ จำได้แค่ว่าเคยได้เรียนเรื่องแมนเดลปลูกถั่ว แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจด้วยนะ ยีนส์เด่นยีนส์ด้อยอะไร จริงๆ เอาแค่ต้องเรียก ป้า น้า อา โกว หรือ อึ้ม ทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยชัวร์ แต่ที่สงสัยมาตลอดคือ พวกนักชีววิทยา นักพันธุศาสตร์เก่งๆ นี่เขาศึกษาอะไรกัน คือไม่มีความรู้ถึงขนาดที่จินตนาการไม่ออกว่างานวิจัยด้านนี้มันน่าสนุกตรงไหน เพราะมีความรู้ถึงแค่การส่องกล้องจุลทรรศน์ดูเซลล์พืช ซึ่งก็คิดต่อไปได้แค่ว่าสมัยนี้กล้องคงมีกำลังขยายดีขึ้นมาก แต่มันก็น่าจะต้องมีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นจะมีคนฉลาดๆ ไปทำวิจัยงานด้านนี้เต็มไปหมดได้ไง
Energy for All
ขอบคุณ อ. กราฟ ที่มอบหนังสือ Energy for All ให้นะครับ หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมเข้าใจโครงสร้างกลไกพลังงานไฟฟ้าของเมืองไทย และ ข้อจำกัดสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม (just energy transition) ชัดเจนขึ้นมากเลย
สัมพัทธภาพ – สุดยอดมรดกความคิดของไอน์สไตน์
อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไอน์สไตน์ชอบพูดว่า “God does not play dice.” ในเมื่อเขาค้นพบสมการที่ควบคุมกฎเกณฑ์ของสรรพสิ่งต่างๆ ในจักรวาล ไม่นับรวมฟิสิกส์อนุภาค
ไนโตรเจนของฮาเบอร์-บ็อช
เธอฝากรักไว้ในใจ ฮาเบอร์-บ็อชฝังไนโตรเจนไว้ในตัว… ไม่แน่ใจว่าขึ้นต้นอย่างนี้จะเสี่ยวเกินไปหรือเปล่า แต่ไนโตรเจนครึ่งหนึ่งในตัวผม ตัวคุณ และผู้คนทั้งโลก ก็น่าจะมีที่มาผู้ชายสองคนนี้แหละ!
Rutherford & Fry’s Complete Guide to Absolutely Everything
Complete Guide to Absolutely Everything ตั้งชื่อหนังสือแบบนี้ ไม่ออกแนวสร้างผลตอบแทนลงทุน 100,000% ก็ต้องโคตรดี โชคดีที่เป็นแบบหลัง แน่นอนว่าหนังสือไม่มีวิธีรักษาอาการปวดคอจากการนอนตกหมอน ไม่มีวิธีทำให้แมวมาสนใจ หรือ บอกหนทางสู่การเป็น CEO แต่ก็เล่าเรื่องธีมบิ๊กบึ้มของชีวิต โลก จักรวาล และสิ่งมีชีวิต ไว้ได้อย่างครอบคลุม ลึกซึ้ง น่าสนใจ ที่สำคัญตลกด้วย
Surely You’re Joking Mr. Feynman
ไม่ว่าคุณจะรู้จัก ริชาร์ด ไฟน์แมน (Richard Feynman) ในฐานะเจ้าของรางวัลโนเบลด้าน Quantum Electrodynamics เจ้าของไอเดียควอนตัมคอมพิวเตอร์คนแรกๆ หรือ เจ้าของเทคนิคการเรียนรู้เพื่อความเข้าใจที่แท้จริง แต่หลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ คาดว่าทุกคนน่าจะคิดเหมือนกันว่าไฟน์แมนนั้น…โคตรแสบ!
The Code Book
ไซมอน ซิงห์ (Simon Singh) พาเราไปเกาะติดสงครามที่ไม่รู้จบระหว่างนักเข้ารหัสกับนักถอดรหัส พอนักถอดรหัสถอดรหัสได้ที นักเข้ารหัสก็ต้องคิดค้นเทคนิคใหม่มาแก้เกม หนังสือเล่าพัฒนาการของการเข้ารหัสตั้งแต่ในอดีตไปจนถึงการเข้ารหัสควอนตัม ผ่านเหตุการณ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ละเรื่องนั้นระทึกใจสุดๆ และความที่เป็นเรื่องจริงก็เลยมีรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่าสนใจเต็มไปหมด ซึ่งซิงห์ก็ค้นคว้าหาข้อมูลมาเป็นอย่างดีและเล่าเรื่องได้อย่างแพรวพราว ทำให้เราลุ้นตามตลอด รับรองว่าต้องมีหลายเรื่องที่ทำให้คุณร้องว้าว
Origin Story
ยกให้เป็นหนังสือที่ดีที่สุดที่ได้อ่านในปีนี้เลย สำหรับ Origin Story ของ David Christian ที่เล่าประวัติศาสตร์ตั้งแต่ big bang เมื่อ 13.8 พันล้านปีที่แล้ว กำเนิดระบบสุริยะ มาเรื่อยๆ จนถึงโลกในยุคปัจจุบัน หนังสือเล่าเรื่องราวเป็นลำดับขั้นตอน มีที่มาที่ไป ข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียบ บรรยายภาพชัดเจน ทำให้อ่านสนุก
Numbers Don’t Lie
#ติ่งสมิลขอแนะนำ Numbers Don’t Lie หนังสือเล่มใหม่ของ วาคลาฟ สมิล ซึ่งเนื้อหาก็เป็นไปตามชื่อ คือใช้ตัวเลขเล่าเรื่อง หนังสือครอบคลุมหลากหลายหัวข้อเกี่ยวกับการพัฒนาของโลก ไม่ว่าจะเรื่องเกี่ยวกับประชากร ประเทศ เครื่องจักร พลังงาน การเดินทาง อาหาร หรือ สิ่งแวดล้อม ในแต่ละหัวข้อก็จะนำเรื่องน่าสนใจต่างๆ มาเล่า เรื่องหนึ่งๆ ยาวแค่ 5-6 หน้า ทำให้อ่านง่ายมาก หัวข้อที่หลากหลายช่วยทำให้เราเห็นโลกในมุมที่กว้างขึ้น ใครที่เอียนกับฟีดโซเชียลที่วนเวียนอยู่ไม่กี่เรื่อง หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณหลุดออกจากวังวนได้แน่อน นอกจากนั้นยังอาจกระตุ้นให้คุณเกิดความสนใจเรื่องใหม่ๆ ขึ้นมาก็ได้
Energy: A Beginner’s Guide
“จะมีใครรู้จักพลังงานดีไปกว่า วาคลาฟ สมิล (Vaclav Smil) ได้อีกไหม” เป็นคำถามนึกหลังจากอ่านหนังสือ Energy: A Beginner’s Guide ไปประมาณ 50 หน้า อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าสาเหตุของโลกร้อนนั้นประมาณ 70% มากจากพลังงาน ผมก็เลยอยากลองศึกษาเรื่องพลังงานซะหน่อย ก็เลยนึกถึงหนังสือของสมิลผู้เป็นกูรูด้านพลังงาน เพราะเห็นบิลเกตส์พูดชมอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นนักเขียนคนโปรด พอไปพลิกๆ หนังสือ Energy and Civilization: A History ที่คิโนะคุนิยะแล้วก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะดูจะมีสาระหนักหน่วง แถมหนาอีก เลยยังไม่กล้าเสี่ยง โชคดีที่เดินไปเห็นหนังสือ Energy: A Beginner’s Guide เล่มเล็กๆ บางๆ แค่ 200 กว่าหน้า เลยลองซื้อมาอ่านดู แล้วก็พบว่า…