พันธุกรรมข้ามกาลเวลา

เป็นหนังสือที่ทำให้เปิดหูเปิดตาเป็นอย่างมาก ออกตัวก่อนเลยว่าผมอ่อนชีวะอย่างหนัก ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ จำได้แค่ว่าเคยได้เรียนเรื่องแมนเดลปลูกถั่ว แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจด้วยนะ ยีนส์เด่นยีนส์ด้อยอะไร จริงๆ เอาแค่ต้องเรียก ป้า น้า อา โกว หรือ อึ้ม ทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยชัวร์ แต่ที่สงสัยมาตลอดคือ พวกนักชีววิทยา นักพันธุศาสตร์เก่งๆ นี่เขาศึกษาอะไรกัน คือไม่มีความรู้ถึงขนาดที่จินตนาการไม่ออกว่างานวิจัยด้านนี้มันน่าสนุกตรงไหน เพราะมีความรู้ถึงแค่การส่องกล้องจุลทรรศน์ดูเซลล์พืช ซึ่งก็คิดต่อไปได้แค่ว่าสมัยนี้กล้องคงมีกำลังขยายดีขึ้นมาก แต่มันก็น่าจะต้องมีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นจะมีคนฉลาดๆ ไปทำวิจัยงานด้านนี้เต็มไปหมดได้ไง

หนังสือนี้เล่าพัฒนาการของพันธุศาสตร์ ทำให้รู้ว่ากว่าเราจะมีความรู้ความเข้าใจเรื่องดีเอ็นเออย่างทุกวันนี้ได้ นักวิทยาศาสตร์ส่งต่อผลการศึกษาวิจัยมาหลายต่อหลายรุ่น และ ธรรมชาติก็ซับซ้อนน่าอัศจรรย์เหลือเชื่อ จากที่ไม่เคยแยกแยะได้ว่า ยีนส์ โครโมโซม กับ ดีเอ็นเอ มันต่าง หรือ เหมือน หรือ เกี่ยวข้องกันยังไง วันนี้คิดว่าได้คำตอบละ

ครึ่งหลังของหนังสือที่เล่าถึงการค้นพบและทำความเข้าใจการทำงานของดีเอ็นเอนี่ตื่นเต้นสุดๆ หนังถอดรหัสชัดๆ ยิ่งตอนที่ คริก ค้นพบว่าโคดอนประกอบด้วยเบส 3 ตัว กับ ตอนที่ นิเรนเบิร์ก ถอดรหัสดีเอ็นเอได้นี่ ตะลึง! ต้องตามไปดูยูทูปอีกหลายคลิป หนังสือที่เล่าเรื่องต่อไปจนถึง CRISPR เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่ทำให้การตัดต่อดีเอ็นเอเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ (โอเค ไม่ใช่ผม)

ตอนนี้ผมพอรู้ละว่างานด้านนี้มันน่าสนุกตื่นเต้นขนาดไหน ในหนังสือของหมอเอ้วทั้งหมดผมชอบเล่มนี้ที่สุดละ (เล่มอื่นๆ ก็สนุกทุกเล่มนะ ผมเป็นแฟนคลับ) เพราะมีรายละเอียดและความสลับซับซ้อนมากที่สุด บทท้ายๆ อาจจะต้องตั้งสติอ่านหน่อย เพราะถึงจะเป็นหมอเอ้วเขียน แต่กลไกธรรมชาติมันก็ไม่ง่าย ออกแรงอ่านนิด รับรองคุ้มค่าแน่นอน

ใครที่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ หรืออยากรู้ว่าศาสตร์ๆ นี้มันสนุกน่าสนใจยังไง ลองหามาอ่านดูนะครับ

Related Posts

Begin typing your search term above and press enter to search. Press ESC to cancel.

Back To Top