ยกให้เป็นหนังสือที่ดีที่สุดที่ได้อ่านในปีนี้เลย สำหรับ Origin Story ของ David Christian ที่เล่าประวัติศาสตร์ตั้งแต่ big bang เมื่อ 13.8 พันล้านปีที่แล้ว กำเนิดระบบสุริยะ มาเรื่อยๆ จนถึงโลกในยุคปัจจุบัน หนังสือเล่าเรื่องราวเป็นลำดับขั้นตอน มีที่มาที่ไป ข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียบ บรรยายภาพชัดเจน ทำให้อ่านสนุก
Numbers Don’t Lie
#ติ่งสมิลขอแนะนำ Numbers Don’t Lie หนังสือเล่มใหม่ของ วาคลาฟ สมิล ซึ่งเนื้อหาก็เป็นไปตามชื่อ คือใช้ตัวเลขเล่าเรื่อง หนังสือครอบคลุมหลากหลายหัวข้อเกี่ยวกับการพัฒนาของโลก ไม่ว่าจะเรื่องเกี่ยวกับประชากร ประเทศ เครื่องจักร พลังงาน การเดินทาง อาหาร หรือ สิ่งแวดล้อม ในแต่ละหัวข้อก็จะนำเรื่องน่าสนใจต่างๆ มาเล่า เรื่องหนึ่งๆ ยาวแค่ 5-6 หน้า ทำให้อ่านง่ายมาก หัวข้อที่หลากหลายช่วยทำให้เราเห็นโลกในมุมที่กว้างขึ้น ใครที่เอียนกับฟีดโซเชียลที่วนเวียนอยู่ไม่กี่เรื่อง หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณหลุดออกจากวังวนได้แน่อน นอกจากนั้นยังอาจกระตุ้นให้คุณเกิดความสนใจเรื่องใหม่ๆ ขึ้นมาก็ได้
แรร์เอิร์ธ – ไวตามินของสังคมยุคใหม่
เพื่อที่จะก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 เราต้องเร่งสร้าง โซล่าเซลล์ กังหันลม รถไฟฟ้า แบตเตอรี่ ให้ได้หลายเท่าตัวภายใน 20–30 ปีข้างหน้า นั่นหมายความว่า เราจะต้องใช้แร่ธาตุสำคัญหลายอย่าง เป็นจำนวนมหาศาล แร่ธาตุสำคัญที่ว่าก็มีตั้งแต่ ทองแดง อะลูมิเนียม ลิเธียม นิกเกิล โคบอลต์ แมงกานีส กราไฟต์ ไปจนถึง พวกธาตุหายาก ที่เรียกว่า แรร์เอิร์ธ (rare earth) วันนี้เราจะมารู้จักแรร์เอิร์ธกันว่า ทำไมถึงได้รับความสนใจมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ภูมิคุ้มกันหมู่ – สูตรง่ายๆ ที่ทุกคนเข้าใจได้
ทุกคนคงได้ยินเรื่องภูมิคุ้มกันหมู่ตั้งแต่แรกๆ ที่มีโควิด และก็คงได้ยินอีกสารพัดตัวเลขว่า เพื่อจะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เราจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 50% บ้าง 66% บ้าง ยิ่งพักหลังที่สายพันธุ์เดลต้าระบาดตัวเลขที่ออกกลายเป็น 85% หรือบางทีก็เกิน 100% ไปเลย (แปลว่าอะไร!) ด้วยความหงุดหงิดว่าเค้าพูดเลขอะไรกัน และมันน่าเชื่อถือขนาดไหน วันนี้เลยลองไปดูที่มาของสูตรภูมิคุ้มกันหมู่ แล้วก็พบว่า… มันเรียบง่ายมาก ง่ายแบบที่ถ้าพอย้ายข้างสมการเป็น ใครๆ ก็พิสูจน์ได้ (ใครมีลูกเอาไปเล่าให้ฟังก็ได้นะครับ เค้าจะได้เห็นว่าสิ่งที่เรียนมีประโยชน์ยังไง) เชื่อว่าพอรู้จักที่มาที่ไปแล้ว เราก็จะทำความเข้าใจกับข่าวสารต่างๆ ได้ดีขึ้นครับ เอาล่ะเริ่มกันเลย
Energy: A Beginner’s Guide
“จะมีใครรู้จักพลังงานดีไปกว่า วาคลาฟ สมิล (Vaclav Smil) ได้อีกไหม” เป็นคำถามนึกหลังจากอ่านหนังสือ Energy: A Beginner’s Guide ไปประมาณ 50 หน้า อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่าสาเหตุของโลกร้อนนั้นประมาณ 70% มากจากพลังงาน ผมก็เลยอยากลองศึกษาเรื่องพลังงานซะหน่อย ก็เลยนึกถึงหนังสือของสมิลผู้เป็นกูรูด้านพลังงาน เพราะเห็นบิลเกตส์พูดชมอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นนักเขียนคนโปรด พอไปพลิกๆ หนังสือ Energy and Civilization: A History ที่คิโนะคุนิยะแล้วก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะดูจะมีสาระหนักหน่วง แถมหนาอีก เลยยังไม่กล้าเสี่ยง โชคดีที่เดินไปเห็นหนังสือ Energy: A Beginner’s Guide เล่มเล็กๆ บางๆ แค่ 200 กว่าหน้า เลยลองซื้อมาอ่านดู แล้วก็พบว่า…
ให้เงินช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน
โลกร้อนเป็นปัญหาที่ต้องแก้ทั้งระบบ และสิ่งที่อาจจะมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหามากที่สุด (พอๆ กับที่เป็นตัวสร้างปัญหา) ก็คือ “เงิน” เราแก้ปัญหาโลกร้อนกันเอง (ตรงๆ) ไม่ได้! ทุกคนช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ แต่ถึงแม้จะมุ่งมั่นขนาดไหน ก็ลดได้เพียงบางส่วน เพราะทุกครั้งที่เราขับรถ เราจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2.3 กิโลกรัม ต่อน้ำมัน 1 ลิตร ทุกครั้งที่เราเปิดสวิตช์ไฟ เราจะปล่อยก๊าซ 0.44 กิโลกรัม ต่อไฟฟ้า 1 หน่วย (ไฟฟ้าในประเทศไทยผลิตจากก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก) และทุกครั้งที่เรากินหรือใช้อะไรก็ตาม เราก็ได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมด้วยเหมือนกัน